เรื่องเล่าของชายแก่: น้าชาด ในห้องทะเบียน
นอกจากเรื่องผีสาง สิ่งที่อยู่ในมหาวิทยาลัยธีรลักษณ์และยังคงดูลึกลับ คร่ำครึ ไม่อาจจับต้นชนปลายได้ คงเป็นการมีอยู่ของผู้ชายคนนั้น
ภาพชายสูงวัยรูปร่างผอมสูงในชุดเสื้อเชิ้ตลายตารางอย่างที่เคยฮิตนักหนาเมื่อหลายสิบปีก่อน กับกางเกงตัวโคร่งซึ่งถูกคาดด้วยเข็มขัดหนังหัวเหล็กใหญ่โตเทอะทะ ดูจะเป็นสิ่งที่นักศึกษา หรือบุคลากรภายในมหาวิทยาลัยเห็นจนชินตา หรืออย่างน้อยก็ต้องเคยเห็นบ้างสักครั้งหนึ่ง
ทุกคนเรียกเขาว่าน้าชาด… และไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมอะไรมากไปกว่านั้น
จากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ทะเบียนของคนอื่น ชายอายุร่วมครึ่งค่อนชีวิตคนคนนี้ไม่ใช่พวกช่างเจรจา ละเอียดรอบคอบและให้ความรู้สึกเหมือนหนังสือปกหนังที่กระดาษเริ่มกรอบเหลือง เขาไม่สนใจเทคโนโลยี ความสุขไม่กี่อย่างในชีวิตดูจะมีเพียงโอเลี้ยงและไอพอดที่เก่าบรมเก่า เอาไว้ฟังเพลงฟลอร์เฟื่องฟ้าหรืออะไรเทือกนั้น
เขาไม่เปลี่ยนไป แม้เส้นผมจะเริ่มกลายเป็นสีดอกเลา และริ้วรอยแห่งความชราเริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้า
มันน่าแปลกที่แม้แต่นักศึกษารุ่นที่หนึ่งก็ยังรู้จักเขา
ที่แน่ ๆ เขาเป็นคนที่ไม่ควรจะไปหาเรื่องหรือกวนใจ… น้าชาดในความทรงจำลางเลือนของทุกคนจำจำนักศึกษาแต่ละรุ่นได้แม่นยำ นั่นรวมไปถึงอาจารย์และอดีตคณบดีด้วย แม้บางครั้งจะต้องใช้เวลานึกนานสักนิดก็ตาม
“ผมไม่ใช่ผี แล้วก็ไม่ต้องมาถามหาเรื่องผีกับผมด้วย ออกไป! คนกำลังยุ่ง!” เขาตอกหน้านักศึกษาชมรมประชาสัมพันธ์คนหนึ่งไปแบบนั้น เมื่อถูกชวนให้พูดถึงตำนานลิฟต์ตัวเก่าที่หอสมุด
“ไอ้พวกเด็กเฮงซวย!!!” บางครั้งก็มีคนนึกสนุก แอบเอากุญแจห้องทะเบียนไปซ่อน ทำให้มีข่าวลือออกมาว่าน้าชาดวิตกจริตจนสั่งปั๊มกุญแจมาทีเดียวเป็นร้อยดอก
“ผมไม่เปลี่ยน! ระบบลงทะเบียนแบบเดิมมันก็ดีอยู่แล้ว ถ้าไอพวกเอองเอไอนั่นทำเสียขึ้นมาจะไม่ยิ่งลำบากเรอะ!? ยังไงผมก็จะไม่ยุบงานส่วนนี้!” มีข่าวลือหนาหูว่าเขาตอกหน้าอธิการบดีคนหนึ่งจนถูกสั่งตัดเงินเดือน ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยังคงนั่งอยู่ในห้องทะเบียน จิบโอเลี้ยงฟังเพลงสุนทราภรณ์ต่อมาได้อีกหลายปี
หากจะมีใครสักคนทำตัวเป็นนักปฏิวัติ น้าชาดก็คงเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ของคนคนนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย
เขาลึกลับ… ทว่ารู้แทบทุกความเป็นไปในมหาวิทยาลัย
และย้ำเตือนเอาไว้อีกครั้งหนึ่ง
อย่าคิดจะหาเรื่องเขาจะดีกว่า